มะเร็งผิวหนัง ภัยร้ายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม มีประเภทไหนบ้าง อาการเป็นยังไง พร้อมวิธีป้องกันที่ทำได้ด้วยตัวเอง
มะเร็งผิวหนัง คือโรคที่เกิดจากความผิดของเซลล์บริเวณชั้นผิวหนังกำพร้า ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จนกลายพันธุ์เป็นเนื้องอก และขยายตัวไปทั่วผิวหนัง ซึ่งอาการของผู้ที่เป็นมะเร็งผิวหนังนั้น จะสังเกตเห็นได้แตกต่างกันไป ด้วยสภาพผิว สีผิว และขนาดของมะเร็ง1
รังสี UV เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งผิวหนัง เพราะเซลล์ต้นกำเนิดของมะเร็งอยู่บริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับแสงแดด และรังสี UV โดยตรงบ่อยๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ จะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดแรงในช่วง 10.00-16.00 น. นอกจากนี้ควรสวมหมวกกับแว่นตา เมื่ออยู่กลางที่แจ้ง เพื่อป้องกันความอันตรายจากรังสี UV1 และทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำ
โลโก้ Skin Cancer Foundation ที่พบเห็นตามผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นการรองรับว่ามีคุณสมบัติที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากแสงแดดได้ ซึ่งมากจาก Skin Cancer Label คือ มูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง (SCF) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1979 โดยแพทย์ผิวหนัง และศัลยแพทย์ Mohs Perry Robins, MD, เป็นองค์กรระดับโลก ที่ทุ่มเทให้กับการให้ความรู้แก่สาธารณชน และชุมชนทางการแพทย์ เกี่ยวกับการป้องกันมะเร็งผิวหนัง การตรวจหา และรักษาโรคมะเร็งผิวหนัง
เพราะในแต่ละปี มีผู้ป่วยเกือบ 5 ล้านคน ที่เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง และกว่า 16,000 คน ที่เสียชีวิตจากโรค สาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนัง คือรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์ จึงต้องให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันแสงยูวีได้ จึงต้องมีโลโก้ Skin Cancer Foundation เพื่อเป็นการรับประกัน ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ สามารถป้องกันแสงยูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โลโก้ Skin Cancer Foundation ที่เห็นในสกินแคร์ทั่วๆ ไป จะมี 2 ประเภท ได้แก่
คือเครื่องหมายรับประกันความสามารถในการปกป้องผิวจากแสงแดดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน โดยต้องมีเกณฑ์ดังต่อไปนี้
เป็นเครื่องหมายรับประกันความสามารถในการปกป้องผิวจากแสงแดดของผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกัน แต่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน โดยต้องมีเกณฑ์ดังต่อไปนี้
*ผ่านการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างไม่ต่ำกว่า 10 คนขึ้นไป
**ภายใต้ความยาวคลื่นอย่างน้อย 370 นาโนเมตร (รังสี UVA มีความยาวคลื่น 315-400 นาโนเมตร)3
***ผ่านการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างไม่ต่ำกว่า 20 คนขึ้นไป
มะเร็งผิวหนังสามารถเริ่มสังเกตได้จากความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการที่แตกต่างกันไป แต่สามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ได้แก่
อาการของมะเร็งผิวหนังในแต่ละคนอาจมีอาการไม่เหมือนกัน มะเร็งผิวหนังอาจมีอาการคันไปจนถึงขั้นรุนแรง จนเกิดแผลที่ผิวหนังแล้วรักษาไม่หาย ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งผิวหนังแต่ละประเภท1 ดังนี้
มะเร็งผิวหนังเบซัลเซลล์ คือ มะเร็งผิวหนังที่เกิดจากเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งเติบโต ที่บริเวณผิวหนังชั้นนอก พบได้ในส่วนบริเวณผิวหนังชั้นกำพร้า อาการที่สังเกตได้คือ ความผิดปกติบริเวณผิวที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อยๆ อย่างบริเวณใบหน้า ลำคอ ใบหู หน้าอก และแผ่นหลัง1
มะเร็งผิวหนังความัสเซลล์ คือ มะเร็งผิวหนังที่เกิดจากเซลล์ความัสทำงานผิดปกติที่ชั้นผิวหนังกำพร้า และเติบโตกระจายไปทั่วผิวหนัง มัดเกิดบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย อย่าง ใบหน้า ใบหู ลำคอ แผ่นหลัง และบริเวณริ้วรอย จุดด่างดำแห่งวัย1
มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา เป็นมะเร็งที่พัฒนา และเติบโตมาจากเซลล์เมลาโนไซต์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้อาการของมะเร็งชนิดนี้ สามารถพบได้ทุกบริเวณของผิวหนัง แม้แต่บริเวณที่ไม่ถูกแสงแดดก็ตาม แต่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นจากแสงแดด และรังสียูวี1
ระยะของมะเร็งผิวหนัง แบ่งตามความรุนแรง และความยากในการรักษา สามารถแบ่งได้เป็น 5 ระยะ2 ดังนี้
Skin Cancer Foundation หรือมูลนิธิมะเร็งผิวหนัง ได้แนะนำวิธีการป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง ดังนี้
โดยเฉพาะแสงแดดแรงในช่วง 10.00-16.00 น. เพราะช่วงเวลานี้มีรังสี UVA และ UVB เข้มข้นสูง มีโอกาสกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้มากที่สุด นอกจากนี้รังสี UV ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยได้อีกด้วย
การทาครีมกันแดดเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญมากในการปกป้องผิวจากแสงแดด และต้องทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธี อย่างการทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้ว และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีสัญลักษณ์ Skin Cancer Foundation เพื่อให้มั่นใจได้ว่าครีมกันแดดได้ผ่านการรับรองว่ามีคุณสมบัติที่สามารถช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังได้
เพราะเดย์ครีมที่มีสารป้องกันแสงแดดจะช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิว และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อีกด้วย ซึ่งมีส่วนช่วยชะลอสัญญาณการเกิดริ้วรอยแรกเริ่ม ชาร์จความชุ่มชื้น และคงความยืดหยุ่นให้กับผิว
ในเดย์โลชั่นของ Artistry มี SPF30 PA++++ พร้อมคาร์โนซีน ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี แสงสีฟ้า และรังสีอินฟราเรด
*จากการทดลองกับเซลล์ภายนอกร่างกายสิ่งมีชีวิต (ex vivo)
นอกจากครีมกันแดดแล้ว สิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น คือการสวมเสื้อผ้ามิดชิดไม่ว่าจะเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แว่นตา รวมถึงหมวก เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดด
การเลือกกินอาหารที่มีวิตามินซีสูง มีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระจากแสงแดด ลดต้นเหตุของการก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นวิธีที่ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติของร่างกายได้ไว ทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้ทัน และมีโอกาสหายจากโรคมะเร็งสูงขึ้น
*จากการทดลองกับเซลล์ภายนอกร่างกายสิ่งมีชีวิต (ex vivo)
มะเร็งผิวหนัง คือ โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณชั้นผิวหนังกำพร้า แล้วกระจาย ลุกลามไปยังส่วนสำคัญอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากรังสี UV ในแสงแดด ซึ่งอาการของมะเร็งผิวหนังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะอาการที่พบ จะขึ้นอยู่กับประเภทของเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามสามารถป้องกัน และลดโอกาสการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดจัดโดยตรง สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดเพื่อป้องกันแสงแดด ทาครีมกันแดด และเดย์ครีมที่มีส่วนผสมของสารกันแดดเพื่อปกป้องผิว
Reference
The Skin Cancer Foundation. Skin Cancer 101. skincancer.org. Retrieved 2 February 2024
Cancer research UK. Stages and grades of skin cancer. cancerresearchuk.org. Published 24 Jan 2023. Retrieved 2 February 2024
Wikipedia. Sunlight. wikipedia.org. Retrieved 29 February 2024.
The Skin Cancer Foundation. Seal of Recommendation. skincancer.org. Retrieved 29 February 2024